เรื่องเสียว ก็ช่วยอย่างที่เค้าทำกันนะซิ..ไม่เคยหรือไง
ดิฉัน
ชื่อ นารถนภา อายุ 40 ปี ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทฯ
โฆษณาเล็กๆ สามีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ มีลูกชาย 1 คนชื่อ
ตูนผู้เดียวซึ่งตอนนั้นอายุได้ 5 ขวบ โดยที่ไม่ได้มีสามีใหม่เลย มาปีนี้
ตูน อายุ 15 ปี แล้ว
กำลังศึกษาอยู่ระดับมัธยมปลายซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของดิฉันนัก
ปกติดิฉันจะส่งลูกไปที่โรงเรียนก่อนที่จะมาทำงาน และรับกลับเมื่อเลิกงาน
หรือบางทีตูนก็จะมารอดิฉันที่ทำงาน..ถ้าเบื่อที่จะรอ หรือมีนัดกับเพื่อน
ก็จะโทรมาบอกก่อน ทำให้เราแม่ลูกพูกพันธ์กันมาก
หลังจากที่ดิฉันได้เข้าสู่โลกของอินเตอร์เน็ทและได้ท่องไปตามเว็บผู้ใหญ่
ก็มาเจอกับเรื่องราวต่างๆ
ที่แม่กับลูกมีความสัมพันธ์กันเสียงเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา
“ผมมาแล้วครับ” ทำให้ดิฉันตื่นจากภวังค์ รีบปิดเรื่องที่อยู่หน้าจอทันที
ก่อนที่ลูกชายจะมาคลอเคลียอยู่ข้างเหมือนทุกครั้ง
“แม่ก็เสร็จธุระพอดีเลย..เราไปกันเลยดีกว่านะ..เดี๋ยวแวะทานข้าวกันที่ห้าง
ตรงข้ามนี่แล้วกันนะ” “ครับ..ดีครับตูนหิวจะแย่แล้ว”
แล้วเราสองแม่ลูกก็ไปทานอาหาร
และนั่งละเลียดดูผู้คนรอบข้างอยู่นานจนมืดจึงชวนกันกลับ..
“เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่ก่อนนะครับ”
“อย่าเลยลูก..วันนี้แม่อยากนั่งรถเมล์เปลี่ยนบรรยากาศบ้างน่ะ
ตั้งแต่เราซื้อรถมาใช้นี่แม่ไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้อีกเลย 7
ปีได้แล้วมั๊ง” “ตามใจแม่ซิครับตูนน่ะสบายอยู่แล้วขึ้นอยู่บ่อยๆ
แต่ว่ารถแน่นมากนะครับแม่” จากใจกลางเมืองทั้งสองต้องนั่งรถไปแถวๆ ปทุมธานี
ซึ่งตกลงเลือกเป็นรถเมล์ปรับอากาศก็เป็นที่ทราบกันดีสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่
ในกรุงเทพฯ รถเก่าก็เก่า คนก็แน่น แอร์เย็นบ้างไม่เย็นตามเรื่องตามราว
สำหรับคนรายได้น้อยทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ต้องทน สมชื่อ ขสมก.
(ขนส่งมึงกับกูนะ ไม่ใช่ ขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ อย่างที่เข้าใจ
อ้าว..ไปแขวะเค้าซะแล้ว) เอาเป็นว่าดิฉันลูกได้ขึ้นรถเมล์สมใจอยาก
ในขณะที่ฝนเจ้ากรรมก็ดันเทลงมาแบบมืดฟ้ามัวดิน
ทำให้ผู้คนหนีฝนอัดขึ้นไปบนรถแบบว่ายัดเป็นปลากระป๋องดิฉันลูกขึ้นก่อนเลย
ถูกเบียดจนไปอยู่เกือบท้ายรถ ซึ่งมีไฟสลัวพอเห็นกันได้
ตรงจุดที่สองดิฉันกับลูกยืนเป็นซีกด้านซ้ายมือของรถตรงกับเบาะของคนตาบอดสอง
ผัวเมียนั่งอยู่พอดี ด้านขวาไม่ต้องพูดถึงยืนเบียดกันแน่น
แทบไม่ใครสนใจใครอยู่แล้ว เวลาผ่านไปได้ซักครึ่งชั่วโมงได้
ด้วยที่เบื่อการที่รถติดนานๆ ดิฉันสังเกตเห็นตูนก็สอดสายตาไปทั่วรถ
และสะดุดเข้าสาวออฟฟิศ
หน้าแฉล้มทรงโตนางนึงคงเพราะว่าโดนเบียดจนไม่ได้ทันระวังตัวทำให้กระดุม
เสื้อเม็ดบนสุดหลุดออกมาโชว์เนินอวบขาวเนียนที่ห่อหุ้มด้วยบราแค่ครึ่งเต้า
โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้เรื่อง
ตูนจ้องมองภาพนั้นด้วยความที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า
ด้วยความที่เป็นหนุ่มกลัดมันเมื่อใจคิด ร่างกายก็ตอบสนองอย่างช่วยไม่ได้
มันพองตัวก๋าขึ้นมาคับกางเกงไปกระทบสะโพกของคนที่อยู่ด้านหน้าซึ่งก็ไม่ใช่
ใครก็ที่ไหน
ดิฉันเองแต่แต่จังหวะนั้นตูนด้วยความที่กำลังเพลินอยู่กับการมองและคง
จินตนาการไปด้วยจึงบดเบียดท่อนควยของตัวเองกับก้นงอนของแม่อย่างไม่รู้ตัว
ดิฉันเองตอนแรกก็ไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของลูกชายคิดว่ารถแน่นก็เป็นอย่าง
นี้
แต่ชักผิดสังเกตุตอนที่เริ่มรู้สึกมีท่อนลำแข็งมาสีอยู่ที่แก้มกันด้านข้าง
จะเหลียวไปดูก็ไม่ถนัด จึงต้องปล่อยไปเลยตามเลย
นานเข้าด้วยความที่ตัวเองก็อารมณ์ค้างมาจากการดูเน็ท
ความรู้สึกประหลาดของดิฉันก็เริ่มก่อตัวเข้ามา
และยืนหลับตาพริ้มปล่อยให้ลูกชายถูไถที่ตูดงอนอยู่อย่างนั้น
จนเมื่อหญิงสาวคนนั้นขยับตัวไปข้างหน้าเพื่อจะลง ตูนจึงได้หยุด
แต่อารมณ์ยังไม่ได้หดหายไปไหนและควยยังแข็งสีกับแก้มกันของดิฉันอยู่
และดิฉันจึงได้ชำเรืองไปดูและต้องสะดุ้งในใจนิดนึงหยุดการบดเบียดไว้
แต่ก็ไม่ได้เอาออก แล้วก็ค้างไว้อย่างนั้นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
ดิฉันเองก็กำลังเพลินอยู่เหมือนกันแต่เห็นตูนหยุดเงียบไปด้วยความที่ไม่ยาก
ที่จะหยุด จึงเป็นฝ่ายส่ายตูดเข้าหาท่อนควยของตูนเสียเอง
เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือน และคงคิดว่านี่เป็นไปตามแรงของรถวิ่ง
ตูนเองเมื่อเจอแบบนี้เข้าก็อดไม่ได้ที่จะบดเบียดตอบไปบ้าง
จนที่สุดตูนก็กลั้นความอยากไว้ไม่ไหวเหมือนกันลืมนึกว่าเป็นแม่ ค่อยๆ
เอื้อมมือสอดเข้าไปด้านหน้าตรงหว่างเอวของผู้เป็นดิฉันกะว่าจะดึงมาประกบกับ
ควยตัวเองให้สนิท
และตูนก็ทำได้โดยง่ายด้วยเพราะมือซ้ายของดิฉันต้องจับพนักเก้าของรถไว้และ
มือขวาต้องถือแฟ้มเอกสารบางๆ อยู่เล่มนึง ดิฉันไม่ได้ขัดขืน
แต่เอนหลังมานิดนึงสัมผัสแผ่นอกของตูน ทำให้หน้าเกือบจะแนบชิดกัน
และบอกตูนกระซิบเบาๆ “..ต่ำลงหน่อย..ๆ...” พร้อมมือข้างที่ถือแฟ้มลดลงไป
ตูนค่อยๆ ขยับมือเลื่อนลงไปแปะไว้ที่ใต้ท้องน้อย เหนือเนินหัวหน่าวนิดเดียว
ดิฉันก็กระซิบเบาๆ อีก “ ต่ำลงอีก ” ตูนตอนนี้เข้าใจแล้วว่าแม่ต้องการอะไร
อาห์....แม่ต้องการให้เค้าจับหีนี่เอง...เค้าคงไม่อยากเชื่อดิฉันที่ดูเรียบ
ร้อยมาตลอด
และสอนให้เค้าเรียบร้อยมาตลอดจะให้เค้าจับหี..หีของแม่...ที่เป็นของหวงห้าม
สำหรับลูกทุกคน แต่ควยของเค้าก็ยังแข็งยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก
ด้วยอารมณ์อยากตูน เหลือบมองดูรอบๆ ตัวก็ไม่เห็นมีใครสนใจ
จึงตัดสินใจเลื่อนมือลงไปสัมผัสกับเนินหีของผู้เป็นแม่..ทั้งที่ลูบอยู่ภาย
นอกบ่งบอกได้ถึงความโหนกนูน นิ่มมือ ตูนทั้งบีบทั้งเคล้นอย่างมันมือ
และแล้วเขาก็ละมือจากตรงนั้น
แต่ลดลงไปถึงชายกระโปรงสั้นที่ดิฉันใส่อยู่แล้วค่อยเอามือแตะที่โคนขา
ทำเอาดิฉันสะดุ้ง แล้วก็นิ่งไปซักพักตูนคงได้ใจ
ค่อยๆขยับเข้าโคนขาด้านในแล้วลูบมือขึ้นมาอย่างช้าๆ ทีละนิด
จนถึงโคกหีที่อยู่ในกางเกงในอีกที
และตูนคงได้พบกับความเปียกชุ่มของกางเกงใน เขาหยุดมือไว้
แล้วมองรอบข้างอีกทีทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีใครสนใจใคร
หนำซ้ำด้านขวามือมีแฟ้มเอกสารบังอยู่ ซ้ายมือหมดห่วงเพราะเป็นคนตาบอด
ค่อยใช้ปลายนิ้วแซะขอบกางเกงในเข้าไปสัมผัสเนื้อหีจริงๆ
ที่มีกลุ่มหมอยปิดคลุมอยู่ ซอนแซะจนเจอร่องหีที่มีน้ำเงี่ยนเอ่อเยิ้ม
แล้วแยงนิ้วเข้าไป ดิฉันเม้มปากแน่นเพราะกลัวเสียงจะเล็ดลอดออกมา
ควยก็ยังบดอัดกับร่องตูดอยู่
เขาเฝ้าแยงรูหีบดควยเข้าร่องตูดของดิฉันจนเห็นมีอาการกระตุกเกร็งแล้วหยุด
นิ่งไป จึงละมือออกมา แต่ไม่ได้หยุดแค่นั้นหรอกนะ ดิฉันน่ะสบายตัวไปแล้ว
ส่วนเขายัง ต้องมีต่อว่าแล้วก็ขยับเป้ใส่หนังสือเรียนมาอยู่ด้ายขวา
เพื่อปิดระหว่างบั้นเอวของเขากับดิฉัน แล้วค่อยลดมือลงรูดซิปกางเกงลงจนสุด
ควักเอาควยแข็งออกจากกางเกงใน
ขยับชายกระโปรงด้านหลังของดิฉันขึ้นแล้วแหย่ควยเข้าไป
ดิฉันรู้สึกว่าความอุ่นที่ห่างหายไปหลายไปลุกล้ำเข้ามาใต้กระโปรง
รู้ทันที่ว่าลูกชายตัวดีสอดควยเข้ามา
“ใจกล้ามากมากนะนายตูนดีหล่ะต้องตอบโต้กลับไปบ้างแล้ว”
จึงขยับให้เค้าอีกตัวนิดเดียวท่อนควยของลูกชายก็เข้าล๊อกระหว่างร่องตูดกับ
ซอกขาพอดี แล้วเบ่งกล้ามเนื้อรัดท่อนควยไว้
ตูนถึงกับต้องเม้มปากไว้แน่นเพราะกลัวเสียงจะเล็ดลอดออกมา
ทั้งหยุ่นทั้งแน่น
และแก้ลำฉันด้วยการล้วงมือเข้าไปจับหีที่ใต้กระโปรงอีกเป็นครั้งที่สอง
ไชนิ้วเข้าร่องหีแล้วควานไปทั่งโพรงหี ดิฉันก็ต้องเกร็งตัวแน่นเหมือนกัน
มันทั้งเสียว
ทั้งมีอารมณ์อย่างมากมายด้วยความที่ว่ามาล้วงหีถอกควยกันต่อหน้าคน
ถึงจะกลัวคนเห็นแต่มันก็ตื่นเต้นดี
และในท่านี้นี่เองตูนก็ไม่ต้องออกแรงกระเด้าเลยเพราะว่ารถหลุดออกมานอกเมือง
แล้ววิ่งได้เต็มที่ ปาดซ้ายปาดขวา บางครั้งก็เบรคแบบกระตุก
เลยเป็นการช่วยกระเด้าไปในตัว
ก่อนที่จะถึงจุดหมายเพียงป้ายเดียวตูนก็ทะลักความสุขออกมาเต็มกระโปรงและซอก
ขา ทั้งกองอยู่ในกางเกงในของดิฉันไปแล้ว พอดีถึงป้ายที่สองแม่ลูกจะลง
เลยต้องรีบลงจากรถโดยไว
ทิ้งกลิ่นคาวน้ำกามให้ตลบอบอวนอยู่บนรถนั่นเองเมื่อลงรถ เดินไปอีกประมาณ
300 เมตรก็จะถึงทางเข้าบ้านของสองแม่ลูกแล้ว แต่ฝนเจ้ากรรมที่ตกเปาะแปะๆ
อยู่ดันโหมกระหน่ำลงมาอีก
ทำให้สองแม่ลูกต้องรีบวิ่งเข้าไปหลบในศาลาพักผู้โดยสารริมทาง
ลักษณะเป็นทรงไทยหลังคาแหลม เปิดโล่งทั้งสี่ด้าน มีเสาสี่ต้นที่ อยู่ตามมุม
ด้านหน้าม้านั่งยาวที่ติดพนักพิง
ถ้าตั้งใจหลบคนเดินผ่านสามารถแอบหลังเสาได้เลย
เรื่องไฟไม่ต้องพูดถึงไม่มีอยู่แล้ว จึงค่อนข้างมืด ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 3
ทุ่มแล้ว และที่ป้ายตรงนี้เป็นแถบชานเมือง มีรถเมล์วิ่งผ่านแค่สายเดียว
ปกติรถก็ไม่ค่อยจะมากอยู่แล้ว มาในสถานการณ์ที่ฝนตกหนักมาตั้งหัวค่ำ
และดึกขนาดนี้ นานจะเห็นแสงไฟจากรถวิ่งผ่านไปมาซักคัน
ทำให้ในศาลาจึงมีเพียงสองแม่ลูกหลบ ฝนอยู่เท่านั้น
เข้าไปซุกตัวอยู่หลังเสาด้านในเจตนาเพื่อหลบละอองฝน
เพราะความที่อากาศหนาวหรือไงไม่ทราบ ทำให้ต้องยืนเบียดกันอีก
ในบรรยากาศแบบนี้ประกอบกับอารมณ์ที่ยังครุกรุ่นอยู่ของทั้งคู่
ต่างคนต่างเงียบ จะมีก็สบตากันบ้าง และเมื่อนั้นเหมือนน้ำมันถูกกับประกายไฟ
เหมือนอ่านใจกันออก เราลืมความเป็นแม่ลูก
เผลอตัวโอบกอดพันกันนัวเนียมือไม้ของตูนป่ายปะไปทั่วตั้งแต่พวงนมสองเต้า
ก่อนที่เลื่อนลงไปตะปบโคกหีอล่างฉ่างที่ด้านล่าง
มือของดิฉันก็ลูบไล้ท่อนควยของลูกชายซึ่งบัดนี้ แข็งขึ้นเป็นลำ
ต่างเฝ้าขยำขยี้กันอย่างไม่ลดละ จนในที่สุดดิฉันต้องออกปากบอก
“ช่วยแม่ด้วย” … เอาล่ะซิ นายตูน
ทำมาได้ถึงตอนนี้ก็เพราะอารมณ์เงี่ยนพามาแท้ๆ
เลยมาตอนนี้ตอนนี้จะทำยังไงล่ะ เงอะๆงะ
“ช่วยอะไรครับแม่..ให้ตูนช่วยอะไรครับ”
“ก็ช่วยอย่างที่เค้าทำกันนะซิ..ไม่เคยหรือไง” “ครับไม่เคยครับ”
“อ้าว..แล้วเห็นทำเก่ง” “ตูนก็ไม่รู้ทำไปได้ยังไงครับ รู้แต่ว่ามันอยากทำ
แล้วแม่ก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ตูนได้ จับๆ เอ่อ จับ”….....“หี” .......
No comments:
Post a Comment